รู้ก่อนใช้ ระบบโซล่ารูฟท็อปทำงานอย่างไร คุ้มค่ากับการลงทุนจริงหรือ?

                               อากาศที่ร้อนขึ้นทุกวัน ทำให้ได้ยินผู้คนกล่าวถึงโทษของแสงแดดกันหนาหู จนบางทีก็ลืมไปว่าข้อดีและคุณประโยชน์ของสิ่งนี้ก็มีไม่น้อยเช่นกัน ที่เห็นเด่นชัดและกำลังเป็นที่นิยม นั่นก็คือ “โซล่าเซลล์” พลังงานทางเลือกที่เข้ากับเทรนด์รักษ์โลกในปัจจุบัน อีกทั้งการลงทุนติดตั้งโซล่าเซลล์ราคาก็ปรับลดลงกว่าแต่ก่อนพอสมควร ส่งผลให้โซล่าเซลล์กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ภาครัฐขอความร่วมมือและรณรงค์ให้ติดตั้ง โซล่ารูฟท็อปจึงเข้ามามีบทบาททั้งการใช้เองในครัวเรือน อาคาร หรือโรงงาน และเพื่อให้การตัดสินใจติดตั้งง่ายขึ้น วันนี้เราจะมาส่งต่อข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจติดโซล่าเซลล์ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าการลงทุนกับพลังงานสะอาดในครั้งนี้จะคุ้มค่าอย่างแน่นอน

  ทำความรู้จักโซล่ารูฟท็อป นวัตกรรมผลิตพลังงานทดแทนที่กำลังมาแรง   

                               โซล่ารูฟท็อป (Solar Rooftop) คือ แผงโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งไว้บริเวณหลังคาอาคารที่อยู่อาศัย สำนักงาน หรือโรงงาน ทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยแผงโซล่าเซลล์เมื่อได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์จะส่งต่อเข้าสู่กระบวนการแปลงให้เป็นกระแสไฟฟ้า เพื่อจ่ายไฟสำหรับใช้งานในระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคาร

     หลักการทำงานของระบบโซล่ารูฟท็อป รู้และเข้าใจง่ายต่อการใช้งาน   

                               ความรู้ความเข้าใจที่มากขึ้น จะทำให้คุณใช้งานโซล่าเซลล์ได้ง่าย และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระบบที่ติดตั้งกันนั้นแบ่งออกเป็น 3 ระบบ และมีหลักการทำงานในแต่ละระบบ ดังนี้


  1. ระบบออนกริด (On grid) เป็นระบบที่ยังคงต้องพึ่งพาไฟจากการไฟฟ้าอยู่บ้างเล็กน้อย หลักการทำงาน คือ เมื่อแผงโซล่าเซลล์รับพลังงานแสงอาทิตย์มาแล้ว ก็ส่งต่อเข้าสู่กระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้า และจ่ายพลังงานไฟฟ้าเข้าระบบไฟฟ้าของอาคารต่อไป โดยไฟฟ้าที่ได้จะถูกดึงเข้าสู่อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เรากำลังใช้ไฟ และหากมีการใช้ไฟฟ้าเกินกว่ากำลังการผลิตของโซล่าเซลล์ ไฟจากการไฟฟ้าจะถูกดึงมาจ่ายพลังงานโดยอัตโนมัติ เพื่อให้การใช้ไฟของคุณไม่สะดุดและเกิดปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งเมื่อดึงไฟจากการไฟฟ้ามาใช้เพียงเพื่อทดแทนการใช้ไฟบางส่วนที่กำลังการผลิตไม่เพียงพอ ทำให้ใช้ไฟน้อย ค่าไฟที่ต้องจ่ายก็จะลดลงตามไปด้วย


  2. ระบบออฟกริด (Off grid) การติดโซล่าเซลล์แบบระบบออฟกริด เป็นการใช้งานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องพึ่งพาไฟจากการไฟฟ้าแต่อย่างใด เหมาะกับสถานที่ที่ใช้ไฟฟ้าแค่ในช่วงเวลากลางวัน แต่หากต้องการใช้ในเวลากลางคืนก็สามารถทำได้ โดยติดตั้งระบบสำรองไฟฟ้า (แบตเตอรี่) เพื่อกักเก็บพลังงานไว้และจ่ายไฟออกมาใช้ในยามค่ำคืนที่ไม่มีแสงอาทิตย์



  3. ระบบไฮบริด (Hybrid) เป็นการรวมตัวของระบบออนกริดและออฟกริดเข้าด้วยกัน กล่าวคือ มีการใช้ไฟจากการไฟฟ้า รวมถึงมีแบตเตอรี่ไว้กักเก็บพลังงานสำรองด้วย โดยระบบไฮบริดจะทำงานโดยดึงไฟที่ผลิตได้จากโซล่าเซลล์มาใช้ก่อน และเมื่อไฟไม่พอจึงดึงไฟจากการไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่มาใช้สำรอง ซึ่งคุณสามารถกำหนดเองได้ว่าจะให้ระบบดึงไฟฟ้าสำรองส่วนไหนมาใช้ และเช่นเดียวกันกับเวลากลางคืน ระบบจะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ก่อน และเมื่อพลังงานหมดจึงค่อยสลับมาใช้ไฟจากการไฟฟ้า ทำให้ประหยัดค่าไฟเพิ่มขึ้นไปอีก หรือหากคุณกลัวแบตเตอรี่ทำงานหนักเกินไปก็สามารถตั้งค่าให้นำไฟจากการไฟฟ้ามาใช้ก่อนได้เช่นกัน

ประชาสัมพันธ์
Solen Energy Thailand

17 ตุลาคม 2563

  แหล่งข้อมูล : http://www.kbm-tv.de